ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่แบ่งปันความรู้ภาษาอังกฤษ เพราะภาษาคือใบเบิกทางไปสู่โลกที่กว้างขึ้น ^^

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

This - That / These - Those

การใช้ This - That / These - Those




This

That

These

Those

Is

Are

อ่านว่า    ดิส

อ่านว่า    แด็ท

อ่านว่า    ดีส

อ่านว่า    โด้ส

อ่านว่า    อิส

อ่านว่า    อาร์

แปลว่า   นี้  ใช้บอกสิ่งเดียวที่อยู่ใกล้ตัวผู้พูด  
           
แปลว่า   นั้น  ใช้บอกสิ่งเดียวที่อยู่ไกลตัวผู้พูด

แปลว่า   เหล่านี้  ใช้บอกหลายสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้พูด

แปลว่า   เหล่านั้น  ใช้บอกหลายสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้พูด

แปลว่า   เป็น, อยู่, คือ ใช้กับประธานเอกพจน์ทั่วไป

แปลว่า   เป็น, อยู่, คือ  ใช้กับประธานพหูพจน์ทั่วไป



บอกเล่า

อยู่ใกล้                                                  อยู่ไกล
This is a book.                                       That is a book.
นี้คือหนังสือเล่มหนึ่ง                                  นั้นคือหนังสือเล่นหนึ่ง

These are books.                                   Those are books.
เหล่านี้คือหนังสือหลายเล่ม                         เหล่านั้นคือหนังสือหลายเล่ม

These are pens.                                     Those are pens.
เหล่านี้คือปากกา                                      เหล่านั้นคือปากกาหลายด้าม






ปฏิเสธ
This is not a book                                   That is not a book.
นี้ไม่ใช่หนังสือเล่มหนึ่ง                              นั้นไม่ใช่หนังสือเล่มหนึ่ง

These are not book.                               Those are not books.
เหล่านี้ไม่ใช่หนังสือ(หลายเล่ม)                   เหล่านั้นไม่ใช่หนังสือ(หลายเล่ม)


คำถาม
Is this a book?                                       Is that a book?
นี้คือหนังสือเล่มหนึ่งใช่ไหม?                       นั้นคือหนังสือเล่มหนึ่งไหม

Are these boos?                                     Are those books?
เหล่านี้คือหนังสือหลายเล่มใช่ไหม?              เหล่านั้นคือหนังสือหลายเล่มใช่ไหม?




source: 👉

Learning through games! เรียนภาษาให้สนุกด้วยเกม

ภาษาอังกฤษ สำหรับ เด็กๆหลายๆคนแล้วก็เปรียบเสมือนยาขม 
ในฐานะที่เราเป็นครู ลองหาวิธีให้เด็กๆเรียนภาษาอย่างมีความสุขกันดูนะคะ

เกม: วงกลมคำศัพท์
Title  :  Circle it!
Type  : Active Game
Target  :  คำศัพท์ต่าง ๆ
Materials  :  None

Procedure : 
แบ่งเด็ก ๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน
ครูเขียนคำศัพท์ต่าง ๆ บนกระดานดำ
ให้เด็ก ๆ ยืนเรียงเป็นแถวตอนลึก
เด็กที่อยู่หัวแถว จะต้องแข่งกันวงกลมคำศัพท์ที่ครูบอกให้ถูกต้อง
จากนั้นก็เปลี่ยนให้คนที่อยู่ถัดไปเรื่อย ๆ
กลุ่มที่วงกลมคำศัพท์ที่ครูบอกได้ถูกต้องมากที่สุด จะเป็นฝ่ายชนะ


comment: ประถมต้นสนุก ประถมปลายก็ยังใช้ได้ผลค่ะ


เกม: ปริศนาคำทาย
Title  :  Charades
Type  : Game
Target  :  คำศัพท์ต่าง ๆ
Materials  :  None

Procedure : 
แบ่งเด็ก ๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน
ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนไปที่หน้าชั้นเรียน ครั้งละ 1 คน
เพื่อรับคำศัพท์จากครู และจะต้องแสดงท่าทางให้เพื่อนอีกกลุ่มทาย
ว่าคำศัพท์ที่ครูให้มาคือคำว่าอะไร ถ้าทายถูกก็จะได้คะแนนไป
เปลี่ยนกันเล่นไปเรื่อย ๆ กลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ


comment: คำศัพท์ไม่ควรยากเกินไปในการทายและควรกำหนดเวลาจะยิ่งตื่นเต้นค่ะ


เกม: ลูกโป่งหรรษา
Title  :  ลูกโป่งหรรษา
Type  : Active Game
Target  :  คำศัพท์
Materials  :  ลูกโป่ง

Procedure : 
เพื่อทบทวนคำศัพท์
ให้เด็ก ๆ ยืนล้อมเป็นวงกลม ครูโยนลูกโป่งเข้าไปในวงกลม
เด็ก ๆ จะต้องช่วยกันเดาะลูกโป่งไม่ให้หล่นลงพื้น
ทุกครั้งที่เด็ก ๆ สัมผัสลูกโป่ง เด็ก ๆ จะต้อง พูดคำศัพท์ 1 คำ
ถ้าลูกโป่งหล่นลงพื้น หรือ เด็ก ๆ สัมผัสลูกโป่งแล้วไม่พูดคำศัพท์
ให้ถือว่าเกมสิ้นสุด


comment: ในระดับที่สูงขึ้น เปลี่ยนจากคำศัพท์เป็นรูปแบบประโยคหรือ part of speech ก็ได้ค่ะ


เกม: จับเวลา
Title  :  จับเวลา
Type  : Concentration Game
Target  :  คำศัพท์
Materials  :  นาฬิกาจับเวลา

Procedure :

ให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาที่กำหนด
ยกตัวอย่างเช่น
กำหนดเวลา 2 นาที
ให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ที่เกี่ยวกับสัตว์ให้ได้มากที่สุด
เด็กคนที่เขียนได้ถูกต้องมากที่สุด จะเป็นผู้ชนะ


comment: แบ่งเป็นกลุ่มก็สนุกดีค่ะ เด็กๆลุ้นและเชียร์กันสนุกมาก


เกม: ซ่อนหาย
Title: Disappear
Type: Game
Target: คำศัพท์
Materials:  บัตรภาพ

Procedure :

ครูวางบัตรภาพบนโต๊ะประมาณ 5 ภาพ
ให้เวลาเด็ก ๆ ดูและจำภาพต่าง ๆ ประมาณ 10 วินาที
หลังจากนั้นให้เด็ก ๆ ปิดตา พร้อมกับครูหยิบภาพออกไป 1 ภาพ
ครูให้เด็ก ๆ เปิดตา แล้วให้บอกว่า ภาพอะไรหายไป


comment: สามารถหยิบออกมามากกว่า 1 ภาพได้ค่ะ เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นและความสนใจจากนักเรียนมากยิ่งขึ้น



วันนี้เอาไปเท่านี้ก่อนนะคะ 
บอกก่อนเลยว่าทุกเกมที่เอามาแชร์วันนี้ ลองเล่นมาแล้วค่ะ ได้ผลเกินคาด ^^ 


source: 👉


วันอังคารที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2560

Verb to be ป.2

Verb to be (is, am, are)
        Verb  to  be  มีหลักการใช้  ดังนี้
 1.            ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค  มีความหมายว่า  เป็น  อยู่  คือ
2.            ใช้วางข้างหน้า กลุ่มคำ   adjective  ( คำคุณศัพท์ )
3.            ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Continuous ( ประโยคที่มี กริยา ing )
4.            ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Passive  Voice
( ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ )

หลักการใช้กับประธานในประโยค
            1.  ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่  3  ซึ่งได้แก่  He  She  It  หรือ ชื่อคนคนเดียว
     สัตว์ตัวเดียว  และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  is   เช่น
                        *He  is  a  teacher.                               *Sam  is  a  singer
                        *She  is  in  the  room.                         *My  father   is  sleeping.
                        *It  is  a  dog.                                       *The  pencil  is  on  the  table
            2.   ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่  1  (  ผู้พูดคนเดียว ) ซึ่งได้แก่  I  Verb  to  be ที่ใช้  คือ  am                   
                        *I  am  a  student.                                *  I  am  under  the  table.
            3.  ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ  ซึ่งได้แก่  We  You  They   หรือ ชื่อคนหลาย 
     สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง  Verb  to  be  ที่ใช้  คือ  
     are  เช่น
                        *We  are  nurses.                    *My  father  and  I  are  in  the  room.
                         *They  are  policemen.           *Suda and  her  friends  are  under  the  tree.
                        *You  are  very  good.            *The  players  are  in  the  playground.

การสร้างประโยคที่มี Verb  to  be  ให้เป็นประโยคปฏิเสธ.
มีวิธีการดังนี้
            เติม  not   ลงไปในตำแหน่งที่เรียงต่อจาก Verb  to  be    หลัง  is  am  are  เช่น
                        *He  is  not  in  the  room.                   *I  am  not  a  child.
                        *They  are  not  teachers.                    *Suda  is  not  reading.
 หมายเหตุ         รูปย่อของ ปฏิเสธ Verb  to  be  คือ  is  not  ย่อเป็น  isn’t
                        am  not  จะไม่ใช้รูปย่อ                        are  not  ย่อเป็น  aren’t

        การทำประโยคที่มี  Verb  to  be ให้เป็นประโยคคำถาม Yes  No  Question

มีหลักการดังนี้
            เอา  Verb  to  be  มาวางหน้าประโยค  และเอาประธานของประโยคมาวาง
เรียงต่อจากVerb  to  be  หลังจบประโยค  ต้องใส่เครื่องหมายคำถาม เช่น
                        He  is  in  the  room. เปลี่ยนเป็น  Is  he  in  the  room ?
                        They  are  soldiers     เปลี่ยนเป็น   Are  they  soldiers?
                        I  am  a  boy.             เปลี่ยนเป็น  Am  I  a  boy ?

___________________________________________

แบบฝึกหัด verb to be
คำชี้แจง จงเติม is, am, are ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1.They......yellow bananas.
2.We........happy pupils.
3.Sri and I......teachers.
4.Jim and Jack........boys.
5.She......your mother.
6.He......my father.
7.They.......old toys.
8. It.......a bad skirt.
9.He and she......farmers.
10.She and I .......girls.
11.Suda.....a small girl.
12. Jim...... a thin boy.
13. I ........ a good teacher.
14. We.......happy pupils.
15.They ......red pens.
16.These......white cats.
17.Those......new books.
18.It........a tall tree.
19.She.....a good student.
20.He...... a fat bay.
21. That.........a shirt.
22. This..........a bicycle.
23. These.........birds.
24. Those.........dogs.
25. I.........a doctor.
26. You........a nurse.
27. We.........Farmers.
28. They.......apples.
29. I .......a boy.
30. You........a teacher.

source:

English tip! การออกเสียงคำว่า the

the 
the 
the
 คำ ๆ นี้ที่เรารู้จักกันดี

นักเรียนหลาย ๆ คน อาจจะประสบปัญหากับการออกเสียงคำว่า the คำว่า the นั้น สามารถออกเสียงได้ สองแบบ คือ thuh (เดอะ) หรือ thee (ดี) แต่หลาย ๆ คนก็จะอ่านว่า thuh กันเป็นส่วนใหญ่ แต่ในบางกรณีคำนี้จะออกเสียงว่า thee

มาดูกันว่าคำว่า the ออกเสียงต่างกันอย่างไร ในกรณีไหนบ้าง

โดยปกติแล้ว the จะออกเสียงว่า thuh แต่เมื่อคำว่า the อยู่นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o, u จะออกเสียงว่า thee (ดี/ธี) เสียงยาวนะคะ (แลบลิ้นออกมาแตะฟันหน้านิดนึงเป็นอันถูกต้องค่ะ)




ลองดูตารางข้างล่างนี้ค่ะ 



vowel sound
write
say
a
the apple
thee apple
e
the egg
thee egg
i
the ice-cream
thee ice-cream
o
the orange
thee orange
u
the ugli fruit
thee ugli frui

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ นั่นคือสิ่งที่เราออกเสียงออกไป ไม่ใช่สิ่งที่เราเขียน เช่น คำบางคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a, e, i, o, u) ก็จริง แต่จะออกเสียงเป็นเสียงพยัญชนะ ลองสังเกตตัวอย่างในตารางข้างใต้



we write
with
we say
because
the house
consonant h
thuh house
consonant sound
the hour
consonant h
thee our
vowel sound
the university
vowel u
thuh youniversity
consonant sound
the umbrella
vowel u
thee umbrella
vowel sound

ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่า เราใช้ thee (ดี) นำหน้าเสียงสระ ไม่จำเป็นว่าจะขึ้นต้นด้วยสระเสมอไป


การเน้นย้ำ! ด้วย the (thee)

เมื่อเราต้องการจะเน้นย้ำคำใดคำหนึ่ง เราสามารถใช้คำว่า the (thee) ไม่จำเป็นว่าคำนั้นจะขึ้นต้นด้วยสระหรือไม่ ตัวอย่างเช่น

A: I saw the (thuh) president yesterday.
B: What! The (thee) President of the United States?



source: 🔺


อย่าลืมการใช้ the กันนะคะ

หากชอบก็คอมเม้นท์ติชมได้นะคะ พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ